IHS Markit รายงานผลการสำรวจธุรกรรมการจัดซื้อ(PMI)ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของกลุ่ม 19 ประเทศยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโรสกุลเดียว ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 56.6 จากเมื่อเดือนก่อนหน้านี้ที่อยู่ที่ระดับ 58.6 ระดับดังกล่าว นับว่าต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน
อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในระดับใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้
วิธีการอ่านดัชนี PMI ดังกล่าวก็คือ หากว่าต่ำกว่าระดับ 50 จะส่งสัญญาณของการหดตัว แต่หากยืนอยู่เหนือระดับ 50 จะส่งสัญญาณของการเติบโต
ข้อมูลดังกล่าวจึงสะท้อนสัญญาณภาคอุตสาหกรรมการผลิตของกลุ่มประเทศยูโรโซนในเดือนมีนาคม ที่มีแนวโน้มของการเติบโตที่ชะลอตัว และเป็นการเติบโตที่ชะลอตัวมากที่สุดในรอบ 8 เดือนดังที่กล่าวมา
ในขณะที่ดัชนี PMI ชี้วัดทั้งภาคอุตสาหกรรมและการบริการรวมกันของกลุ่มประเทศยูโรโซน ในเดือนมีนาคม ก็ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 55.9 จากระดับ 59.6 เมื่อเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 16 เดือน นับเป็นระดับที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ตามโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์เล็กน้อย
ข้อมูลดังกล่าว ยิ่งสะท้อนสัญญาณตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยูโรโซน กำลังพุ่งขึ้นมาถึงระดับสูงสุด และกำลังเติบโตชะลอตัวลงในปีนี้ สาเหตุสำคัญ เนื่องจากการลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ(QE)ของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป(ECB)ลงในปีนี้ ทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง และการลดโปรแกรมการซื้อพันธบัตรในมาตรการ QE ดังกล่าว ยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วยในปีนี้ รวมทั้งนักวิเคราะห์พากันคาดการณ์ว่า ECB อาจจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมนี้ ภายหลังจากยืนอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์มานับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจ ส่งผลให้ทั้งสภาพคล่องในตลาดลดลง และบรรดาผู้ประกอบการเริ่มที่จะระมัดระวังในการทำธุรกิจ