อุณหภูมิการลงทุนในตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 ล่าสุด เมื่อเวลา 9.42 น.ตามเวลาในประเทศไทย น้ำมันดิบ WTI ซื้อขายล่วงหน้าผ่านหน้าจออิเลคทรอนิคส์ ลดลงอีก 0.86 ดอลลาร์ต่อบาเรล หรือ 1.34% ซื้อขายที่ระดับ 63.29 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรล เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่สามติดต่อกัน ภายหลังจากเมื่อเช้ามืดของวันนี้เมื่อปิดตลาดนิวยอร์ก ก่อนหน้าเอเชียจะเปิดทำการซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง1.30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรล หรือ 2% ลงไปซื้อขายที่ระดับ 64.15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรล มาแล้ว
เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ตลาด ICE ในกรุงลอนดอน ล่าสุด ลดลงอีก 74 เซนต์ หรือ 1.09% ลงไปซื้อขายที่ระดับ 66.90 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาเรล
ตลาดน้ำมันดิบยังคงรับปัจจัยลบจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้นอีก 0.38% เมื่อเปรียบเทียบกับ 6 สกุลเงินสำคัญของโลก แข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อวันก่อนหน้า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯนับเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมันดิบ เนื่องจากซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ราคาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงเมื่อคำนวณเป็นสกุลเงินอื่น
นอกจากนั้น การที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างแรงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ก็ส่งผลในด้านลบต่อความเชื่อมั่นในตลาดน้ำมันดิบเช่นกัน
ประกอบกับตลาดกลับมากังวลกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตในสหรัฐอเมริกาต่อเนื่องจากเมื่อวันก่อนหน้านี้ โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯพุ่งขึ้นมาแล้วถึง 18% เมื่อนับตั้งแต่กลางปี 2559 เป็นต้นมา และเพิ่มขึ้นแตะระดับ 10 ล้านบาเรลต่อวัน ทำให้ปริมาณการผลิตของสหรัฐฯสูงกว่าปริมาณการผลิตของซาอุอารเบียที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกเสียอีก ทำให้คาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันดิบที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสหรัฐอเมริกาจะสามารถชดเชยปริมาณการผลิตที่ลดลงของกลุ่มประเทศโอเปค จากการที่โอเปคและนอกโอเปคมีมาตรการลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันดิบก่อนหน้านี้
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ขณะนี้กำลังการผลิตของสหรัฐฯเป็นรองแค่เพียงรัสเซียประเทศเดียว ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ระดับ 10.98 ล้านบาเรลต่อวัน
มิหนำซ้ำ ข้อมูลต่างๆที่รายงานออกมาก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วแต่ชี้ให้เห็นถึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐอเมริกาที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ โดยเฉพาะปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแท่นขุดเจาะ shale oil ขณะนี้ที่เพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 765 แท่นขุดเจาะเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา นับเป็นระดับที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ระดับ 316 แท่นขุดเจาะถึงกว่า 1 เท่าตัว